วันศุกร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2558

การสูบบุหรี่ในประเทศไทย



          ในประเทศไทยมีการใช้ยาสูบตั้งแต่สมัยอยุธยาแล้ว  โดยมีหลักฐานจากจดหมายเหตุของ เมอร์ซิเออร์  เดอลาลูแบร์ (Monsieur  De  La  Loubere)  อัครราชทูตฝรั่งเศสที่เดินทางมาเมืองไทย สมัย สมเด็จพระนารายณ์มหาราช  เมื่อ พ.ศ. 2230  ได้เขียนเล่าเรื่องประเทศสยามว่า  คนไทยชอบใช้ยาสูบอย่างฉุนทั้งผู้ชายและผู้หญิง  โดยได้ยาสูบมาจากเมืองมะนิลา  ในหมู่เกาะฟิลิปปินส์ จากประเทศจีน  และที่ปลูกในประเทศเอง ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าสิงหนาทราชดุรงค์ฤทธิ์  ได้ทรงประดิษฐ์  บุหรี่ก้นป้านขึ้น  เพื่อสูบควันและอมยากับหมากพร้อมกัน  ครั้นถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  มีการผลิตขึ้นโดยบริษัทที่มีชาวอังกฤษเป็นเจ้าของ ได้เปิดดำเนินการเป็นบริษัทแรก ใน พ.ศ. 2460  การผลิตบุหรี่ในระยะแรกจะมวนด้วยมือ 
          ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว  มีการนำเครื่องจักรเข้ามาจากประเทศเยอรมนี และทำการผลิตบุหรี่ออกมาจำหน่ายหลายยี่ห้อ การสูบบุหรี่จึงแพร่หลายมากขึ้น จนกระทั่ง ใน พ.ศ. 2482  รัฐบาลได้จัดตั้งโรงงานยาสูบขึ้น โดยซื้อกิจการมาจากห้างหุ้นส่วนบูรพายาสูบ  จำกัด  (สะพานเหลืองถนนพระราม 4 กรุงเทพฯ  และดำเนินกิจการอุตสาหกรรมยาสูบภายใต้การควบคุมของกรมสรรพสามิต  กระทรวงการคลัง หลังจากนั้น รัฐบาลได้ซื้อกิจการของ บริษัทกวางฮก  บริษัทฮอฟฟัน  และ  บริษัทบริติชอเมนิกันโทแบกโค  เพิ่มขึ้น  แล้วรวมกิจการทั้งหมดเข้าด้วยกัน  และดำเนินการภายใต้ชื่อว่า  โรงงานยาสูบ  กระทรวงการคลัง  มาจนถึงปัจจุบัน






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น